วันอังคารที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2555

ห้องกว้างอันว่างเปล่า


ห้องกว้างอันว่างเปล่า


มองฟ้าไกลในห้องกว้างอันว่างเปล่า
ไม่มีดาวดวงใดให้มองหา
ริมหน้าต่างห่างไกลสุดสายตา
แหงนมองฟ้ามืดดำกลางค่ำคืน


มีแสงไฟลางลางระหว่างตึก
เสพรู้สึกนึกหนาวในคราวตื่น
ชีวิตเหมือนเพื่อนดาวไม่ยาวยืน
มีชังชื่นตื่นหลับแล้วลับลง


ในห้องกว้างว่างเปล่ามาเฝ้าแม่
ได้เพียงแลแม่หลับใหลในความหลง
ยามแม่ตื่นลืมตามหน้างุนงง
เพราะยังคงอยู่ในไอซียู (ICU)


เพราะโรคร้ายรุมล้อมย่อมเร่งรีบ
เข้าผาตัดหัวใจตีบรีบต่อสู้
สงครามเย็น “เป็น-ตาย” ใช่ศัตรู
แค่เป็นคู่คนละข้างต่างวันวัย


เรื่องของแม่ครั้งก่อนสะท้อนภาพ
ยังซึมซาบกลับเยือนเหมือนภาพใหม่
เป็นต้นแบบชีวิตนำจิตใจ
บันทึกไว้ในวันอันวังเวง


อยากเฝ้าแม่แต่เราต้องเฝ้าห้อง
แว่วฟ้าร้องค่อยค่อยกลางฝอยฝน
ดวงใจหวั่นรันทดอย่างอดทน
มารผจญคราวนี้อีกกี่วัน


โสภณ เปียสนิท
39/3 เขาพิทักษ์ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110

วันศุกร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2555

กวีเรื่องสั้นบันทึก: คำพ่อ

กวีเรื่องสั้นบันทึก: คำพ่อ: “คำพ่อ” คืนหนึ่งข้างกองฟางบ้านกลางทุ่ง หลังคามุงจากเก่าเสาไม้ไผ่ นั่งร้านฟากริมชายคามองฟ้าไกล ดาวน้อยใหญ่ระยิบอยู่ลิบตา ...

เสียงเด็กร้องไห้ข้างบ้าน


เสียงเด็กร้องไห้ข้างบ้าน

 

ในยามบ่ายปลายวันอันเงียบเหงา

ลมเบาเบาแกว่งไกวใบมะม่วง

พยับแดดเต้นเร่าเงาภาพลวง

ฝุ่นหล่นร่วงลงค้างบนหลังคา



แว่วเสียงเด็กร้องไห้ในบ้านร้าง

คำครวญครางมุ่งมาดปรารถนา

อยากเห็นแม่ทุกทีที่ลืมตา

ทุกเวลาอบอุ่นหนุนแขนนอน



อยากให้แม่อุ้มไว้เดินไปเที่ยว

ทุกทางเทียวแม่พาผ่านมาก่อน

ผ่านทุ่งท่าสายัณห์ตะวันรอน

แล้วจึงย้อนทางยาวกลับเย้าเรือน



อยากให้แม่กลับมาพาอาบน้ำ

ล้างรอยดำช้ำชอกฟอกรอยเปื้อน

ทาแป้งหอมย้อมใจไม่ลืมเลือน

แม่จึงเหมือนเพื่อนใจในความจำ



ฟังนิทานกล่อมนอนก่อนจะหลับ

เสียงเพลงขับคำขานอันคมขำ

ก่อนหลับผล็อยลอยอารมณ์ในคมคำ

เมื่อม่านดำราตรีเริ่มคลีคลุม



ในยามบ่ายปลายวันอันหม่นหมอง

เสียงร่ำร้องร่ำไรเหมือนไฟสุม

ไฟเหว่ว้าอารมณ์ยังโหมรุม

แม่ไม่อุ้มเพียงใดไม่หลับเลย

 

โสภณ เปียสนิท
39/3 เขาพิทักษ์ หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ 77110